บทความรีวิวจาก Design Your Living

---

 

Vertical Biz Villa

ที่ออกแบบได้อย่าง Flexible ที่สุด

 

 

ที่นี่คือ Residential & Office Working Space ในรูปแบบ Vertical Biz Villa ที่รองรับได้ทั้งการอยู่อาศัย และการทำงาน ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากที่สุด ด้วยการออกแบบฟังก์ชั่นที่รองรับการปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ รวมไปถึงการออกแบบสถาปัตยกรรมของอาคารที่คำนึงถึงทิศทางลม แสงแดด และความเป็นส่วนตัวได้อย่างลงตัวที่สุด

สิ่งหนึ่งที่ทางโครงการใส่ใจเป็นพิเศษ คือการใส่พื้นที่สีเขียวไปในตัวอาคาร เพิ่มมุมมองที่สวยงามของผู้อยู่อาศัย และทัศนียภาพโดยรวมของโครงการ โดยได้เลือกต้นไม้มาให้แล้วอย่าง ต้นล่ำซำ กับเฟิร์นไมอามี่

รวมไปถึงการออกแบบที่คำนึงถึงทิศทางลม และแสงแดด อย่างที่ชั้นอยู่อาศัย 4-5 จะมีการออกแบบ Facade ที่สามารถเปิดโล่งรับลมและแสงแดดได้ หรือจะปิดเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักอาศัยได้ด้วยเช่นกัน

ซึ่งการออกแบบ Facade ของโครงการนี้ นอกจากจะช่วยเรื่องลม แสงแดด และความเป็นส่วนตัวแก่กันและกันแล้ว ยังเป็นทัศนียภาพโดยรวมที่ดูสวยงามลงตัวอย่างเป็นเอกลักษณ์ พร้อมกับพื้นที่สีเขียวที่ใส่ไปในแต่ละชั้นด้วย

เรามาเริ่มดูรายละเอียดของตัวบ้านกันตั้งแต่หน้าบ้านเลยค่ะ

ด้วยพื้นที่ใช้สอยของตัวบ้านที่ให้มาแบบจัดเต็มถึง 556 ตร.ม. ทำให้ด้านหน้าของตัวบ้านค่อนข้างกว้างขวาง และรองรับการจอดรถได้ถึง 6 คัน โดยจะมีประตูหน้าบ้านเป็นแบบ Automatic Sliding Gate พร้อมระบบสั่งเปิด-ปิดผ่าน Application ใน Smart Phone

เข้ามาที่ในตัวบ้านชั้น 1 ถ้าหากมองจากบ้านเปล่า จะเห็นได้ชัดเลยว่าเป็นพื้นที่ขนาดกว้าง ที่มาพร้อมประตูบานเลื่อนกระจกโดยเปิดได้รอบทิศทางถึง 3 ด้านของตัวบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดรับลมและรับแสงได้เป็นอย่างดี ซึ่งชั้นนี้ถ้าหากทำเป็นที่พักอาศัย สามารถทำเป็นห้องนั่งเล่น ห้องรับรองได้อย่างเต็มพื้นที่เลยค่ะ หรือถ้าหากจะทำเป็นออฟฟิศ บริเวณนี้สามารถทำเป็นพื้นที่ต้อนรับได้ดีมากๆอีกด้วยค่ะ

ก่อนจะขึ้นไปดูที่ชั้น 2-3 อยากให้สังเกตที่ตัว Facade ค่ะ ด้วยความตั้งใจของ คุณอยุทธ์ มหาโสม บริษัท Ayutt and Associates design (AAd) สถาปนิกชื่อดังระดับประเทศ ที่อยากให้พื้นที่โซนนี้มีความเป็นส่วนตัวระหว่างกันและกันของฝั่งตรงข้ามอาคาร จึงได้ดีไซน์ Facade ให้หลบมุมกัน แต่ในขณะเดียวกันเราจะได้แสงธรรมชาติและมุมมองสวยๆของพื้นที่สีเขียวฝั่งตรงข้าม ที่ทางโครงการได้เลือกใส่ต้นล่ำซำและเฟิร์นไมอามี่ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

ถ้าหากมองจากมุมนี้จะเห็นได้ชัดถึงการหลบมุมกันได้เป็นอย่างดีของตัว Facade ที่มองจากภายนอกสวยงาม มองจากภายในใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง

โดยพื้นที่ในแต่ละชั้นของตัวอาคาร ได้มีการออกแบบไม่ให้มีเสากลางบ้าน จึงสามารถออกแบบตกแต่งภายในได้ง่าย สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะทำเป็นพื้นที่ทำงาน หรือจะกั้นห้องทำเป็นที่อยู่อาศัยก็สามารถทำได้ทั้งหมด

โดยวัสดุปูพื้นที่ชั้น 2-3 ทางโครงการได้เลือกใช้กระเบื้อง NIRO GRANITE สี Polar Black Frost ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี หากมีการลากเก้าอี้ ย้ายโต๊ะทำงาน ก็จะทำให้พื้นไม่เป็นรอยได้ง่ายด้วยค่ะ

ทั้งนี้ยังมีลิฟต์ระบบ Private Access Control รองรับตั้งแต่ชั้น 1-5 และมีบันไดหนีไฟที่ทางด้านหลังของอาคาร รองรับการขึ้น-ลง ของแม่บ้าน และยังเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวอาคารที่มีความสูงถึง 5 ชั้น

ห้องฝั่งด้านหลังของตัวอาคาร ยังมีห้องที่เป็นสัดส่วน ที่สามารถออกแบบให้เป็นพื้นที่ทำงานหรือใช้สอยให้ตอบโจทย์มากที่สุดได้ โดยทางโครงการได้ออกแบบให้เป็นห้องสตูดิโอไว้เป็นไอเดีย

นอกจากความสวยงามด้านหน้าตัวอาคารแล้ว ด้านหลังยังได้ออกแบบระแนงกั้นที่ซ่อนงานระบบอย่าง CDU หรือ Air Compressor เอาไว้ ทำให้มองจากภายนอกแล้วสวยงาม และยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวกับผู้พักอาศัย เมื่อมีการซ่อมงานระบบสามารถใช้บันไดหนีไฟทำได้ที่ด้านหลังของตัวอาคาร

อย่างไรก็ตามด้วยการออกแบบที่ผสมผสานทั้งการอยู่อาศัยและการทำงานไว้ในที่เดียวกัน ทางโครงการจึงได้ออกแบบให้มีประตูพร้อม Digital Door Lock มาให้ที่ทางขึ้นมายังชั้น 4 ที่จะเป็นพื้นที่พักอาศัย ทำให้บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าผ่านมาได้ง่ายๆ

ขึ้นมาที่ชั้น 4 ที่เป็นพื้นที่พักอาศัย และค่อนข้างเปิดโล่ง ด้วยการออกแบบด้านหน้าตัวอาคารให้เปิดรับแสงและลม โดยจะใช้ประตูบานสไลด์แบบเข้ามุมเปิดกว้างรอบด้าน

นอกจากชั้นนี้จะเปิดโล่งรับลมและแสงได้ดีแทนประตูบานสไลด์แบบเข้ามุมแล้ว ยังเชื่อมต่อมายังระเบียงด้านหน้าที่มีระแนงกั้นอีก 1 ขั้น โดยระแนงนี้มีความสวยงามด้วยโทนสีที่ตัดกันกับตัวอาคาร และยังสามารถเปิด-ปิด ได้ ถ้าหากต้องการเพิ่มความเป็นส่วนตัว เพียงแต่ปิดระแนง ก็ยังได้ความเป็นส่วนตัว และได้แสงธรรมชาติแบบไม่ต้องปิดม่านตลอดเวลา

และทางโครงการยังได้จัดวางพื้นที่สีเขียวไว้ให้ที่ชั้นนี้ด้วยพร้อมกับใส่ต้นไม้มาไว้ให้เรียบร้อย ทำให้มุมมองทั้งจากภายในอาคารและด้านนอกอาคารมีความสดชื่น และสวยงามมากขึ้น

ตัวอย่างของการเปิดระแนงกว้างเพื่อรับแสงธรรมชาติและลมอย่างเต็มที่ ซึ่งมุมมองที่เรามองออกไปจะเห็นต้นไม้ของอาคารตรงข้ามช่วยเพิ่มทัศนียภาพที่ผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

เป็นการออกแบบ Facade โดยคุณอยุทธ์ มหาโสม บริษัท Ayutt and Associates design (AAd) สถาปนิกชื่อดังระดับประเทศ ที่สวยงามมากๆค่ะ

อีกมุมนึงของชั้นพักอาศัยนี้ ยังมีระเบียงพร้อมพื้นที่ต้นไม้อีกเช่นกัน โดยนอกจากจะเพิ่มความสดชื่นสบายตาแล้ว ยังมีความเป็นส่วนตัวระหว่างกันและกันของอาคารฝั่งตรงข้ามด้วย เพราะจะไม่เป็นระเบียงที่หันชนกัน ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถออกไปใช้ระเบียง ชมพื้นที่สีเขียวได้อย่างเต็มที่

ความกว้างของพื้นที่ในแต่ละชั้น ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่ใช้งานได้ค่อนข้างหลากหลาย อย่างพื้นที่พักอาศัย สามารถแบ่งเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น พื้นที่ทานอาหาร พร้อมกับเป็นพื้นที่เพนทรีพร้อมครัวฝรั่งที่บริเวณนี้ได้อีกด้วย ซึ่งทางโครงการเองได้ออกแบบระบบท่อน้ำไว้รองรับเรียบร้อยแล้ว

ส่วนห้องด้านหลัง สำหรับผู้ที่ทำเป็นโซนพักอาศัย ก็สามารถ Built-in ให้เป็นพื้นที่ครัวแบบจัดเต็มได้ โดยไม่ต้องกลัวเรื่องการระบายกลิ่น เพราะมีช่องแสงธรรมชาติที่เปิดกว้างมากๆ

ซึ่งในแต่ละชั้นก็จะมีห้องน้ำไว้รองรับเรียบร้อย

ขึ้นมาที่ชั้น 5 สามารถทำเป็นพื้นที่ Master Bedroom ได้อย่างเต็มพื้นที่ โดยความพิเศษของชั้นนี้คือการมี Double-Skin Facade ที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักอาศัย แม้จะมีการเปิดม่านรับแสง ก็ยังช่วยกรองสายตาจากอาคารฝั่งตรงข้ามได้

โดยวัสดุปูพื้นที่ชั้น 4-5 เป็นพื้นไม้เอนจิเนียร์หนา 14 มม. ข้อดีของพื้นแบบนี้คือมีความทนทาน ทนความชื้นได้มากกว่าไม้ลามิเนต มองแล้วสบายตาและเหมาะกับการทำเป็นโซนพักอาศัย

มุมระแนงที่เปิดออกเพื่อรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้น

พื้นที่ Walk-in Closet ที่สามารถออกแบบให้เป็นสัดส่วนได้ในพื้นที่ Master Bedroom

ในห้อง Master Bedroom จะมาพร้อมห้องน้ำในตัว โดยจะเป็นห้องน้ำที่เปิดโล่งรับพื้นที่สีเขียวและแสงธรรมชาติด้านข้างบ้าน

ห้องด้านหลังสำหรับโซนพักอาศัย สามารถทำเป็นอีก 1 ห้องนอนได้ โดยสามารถ Built-in ได้อย่างเต็มที่

ห้องน้ำจะอยู่ฝั่งตรงข้ามห้องนอน ตอบโจทย์การใช้สอยได้อย่างต่อเนื่อง รองรับทั้งสุขภัณฑ์และ Shower Box ซึ่งชั้นพักอาศัยนี้เองจะกั้นเป็นห้องด้านหลังให้เชื่อมต่อกับห้องน้ำเป็นพื้นที่ส่วนตัวเพิ่มเติมก็ยังสามารถทำได้ด้วยค่ะ

ทางโครงการยังได้ติดตั้ง EV Charger รองรับไว้ให้ในทุกๆยูนิตอีกด้วย

สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่กำลังมองหาที่พักอาศัย หรือมองหาอาคารสำหรับทำออฟฟิศอยู่ ที่นี่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้ง 2 กลุ่ม ด้วยการออกแบบภายในได้อย่าง Flexible สุดๆ พร้อมทั้งการออกแบบภายนอกอาคารที่สวยอย่างเป็นเอกลักษณ์พร้อมพื้นที่สีเขียว อยากให้ลองเข้ามาชมบ้านจริงกันได้ที่โครงการกันดูนะคะ

 

บทความรีวิวจาก Design Your Living

---

ลงทะเบียนเพื่อเข้าชมโครงการ